‘โอมากาเสะ’ หรืออาหารแนว ‘Chef Table’ สไตล์ญี่ปุ่นกำลังมาแรงในเมืองไทยเลยค่ะ แต่จุดเด่นมากๆ ของ ‘Meruto Sushi’ ก็คือ เป็นร้านที่บริหารและทำอาหารโดยคนไทยทั้งหมด นำเข้าแต่วัตถุดิบพรีเมี่ยม ในแบบที่บางร้านในญี่ปุ่นยังใช้ของคุณภาพไม่ดีเท่านี้! จนมีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นแวะเวียนมาทำให้ร้านเต็มตลอด!
ทุกอย่างคือความพิถีพิถัน ดั่งงานศิลปะ
HELLO! จะพาคุณไปรีวิว ‘Summer Finale’ จัดเต็มกับโอมากาเสะ 18 คำ ไล่เรียงกันมาแบบครบถ้วนจนอาจทำให้คุณกินอาหารญี่ปุ่นที่อื่นไม่ได้อีกต่อไป… เพราะอร่อยและคุณภาพดีทุกคน! เราเริ่มกันที่ชาเขียวขวดใหญ่ เสิร์ฟในแก้วไวน์เพราะมันหอมมาก เป็นรสชาติอูมามิซึ่งเปิดประสาทรับรสได้ทันที จากนั้นต่อด้วยปลาเนื้อขาว และบรรดาหอย ตั้งแต่ ปลาอิซากิ, ไข่หอยเม่นโรยด้วยเปลือกส้มยูสุ หอยไทระกะห่อสาหร่ายแผ่นกรอบ, ซูชิปลากินกิซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในอาหารทะเลซึ่งมีราคาแพงที่สุดในตลาด, ซูชิปลาไอนาเมะเนื้อเด้งอร่อย กล้ามเนื้อแข็งแรงเพราะอาศัยอยู่ตามโขดหิน, ซูชิปลาตาเดียวหนังฉลาม จากเกาะฮอกไกโด เนื้อสัมผัสเหมือนเอ็นแก้วตลอดคำ, ซูชิปลาอาบูระ คินเมได สดมากๆ เพราะส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นถึงประตูร้านก่อนเราไปถึงเพียงชั่วโมงเดียว, หอยเชลล์โฮตาเตะจากฮอกไกโดที่ยิ่งเคี้ยวยิ่งหวาน, ซูชิปลาโคฮาดะ ที่เชฟเอาไปดองน้ำส้มก่อนเสิร์ฟ, ซูชิปลาชิมะ อาจิ เสิร์ฟกับข้าวสีน้ำตาลเพราะต้องการตัดความมันของเหนือปลา ซึ่งเข้ากันได้ดีมากๆ ปิดท้ายด้วย Botan-Ebi ซูชิเนื้อกุ้งสดๆ โรยเปลือกส้มยูสุ พร้อมข้าวซูชิที่นำไปคลุกกับมันกุ้งก่อน คำนี้เลยเหมือนเรากินกุ้งไปทั้งตัว!
ส่วนหนึ่งของซูชิในเซ็ท 18 คำ
นี่แค่เพิ่งหมดเซ็ทแรก เพราะเชฟจะต่อด้วยประเภทปลาเนื้อแดง เริ่มที่ซูชิฮอนมากูโระ หรือปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ราคาตัวละครึ่งล้าน! มาทั้งส่วนที่เป็นชูโทโร่ และโอโทโร่ ได้ทั้งเนื้อหวานๆ และมันนุ่มๆ มาถึงไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอย ไข่หอยเม่นเกรด A+++++ กล่องละ 60,000 บาท ถ้าเฉลี่ยเป็นคำที่เรากินเข้าไปนั้นก็ตก 1,800 บาท ผลิตในญี่ปุ่นวันละ 50 กล่อง ส่งแค่ไม่กี่ที่ทั่วโลก ซึ่ง Meruto Sushi เป็นหนึ่งร้านที่ได้รับสิทธินั้น!
คำนี้ปกติขาย 1,800 บาท ส่วนกล่องข้างๆ นั้นราคา 60,00 บาท!!!
เดินทางมาถึงพาร์ทสุดท้าย เชฟนำหอยเป๋าฮื้อซูวี้ด 6 ชั่วโมงมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำต่อหน้าเรา วางบนซอสตับเป๋าฮื้อสูตรโบราณที่ถอดมาจากตำราโบราณ (และว่ากันว่าเป็นยาอายุวัฒนะด้วยนะ!) ซูชิคำสุดท้ายเป็นโรลล์สาหร่าย ข้างในเป็นปลาทูน่า 3 ส่วน คลุกด้วยไข่หอยเม่น แล้วพันด้วยสาหร่ายกรอบๆ ปิดท้ายด้วยซุปมิโสะปูหิมะ ซึ่งเนื้อปูที่เคี่ยวมานั้นยังคงความหวานอยู่มากๆ อ้อ ยังมีของหวานอีกนะ จานแรกเป็นเมล่อนพรีเมี่ยม เมื่อถามราคาแล้ว เชฟบอกว่าปกติขายกันที่ญี่ปุ่นลูกละ 10,000 บาท! ความเซอร์ไพรส์ยังไม่หมด เพราะใช้ ‘ไข่หวาน’ เสิร์ฟเป็นขนมด้วย แต่ไม่ใช่ไข่หวานอย่างที่เรารู้จัก มันคือคัสตาร์ดเนื้อนุ่ทกลิ่นหอม ทำจากไข่ 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาอยู่ในเตาอบถึง 3 ชั่วโมง โดยต้องมีเชฟจดจ้องอย่างทะนุถนอม กว่าจะสุกออกมาให้เราได้กิน
ไข่หอยเม่นเต็มคำ
ความอร่อยทั้งหมดนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับ เชฟอาร์ม – กีรติ บุตคีวงษ์ เจ้าของร้าน Meruto Sushi ที่ผันตัวเองจากผู้บริหารไฟแรง มาอยู่ในอุตสาหกรรมอาหารญี่ปุ่นตามความหลงใหลของตัวเอง ซึ่งถือว่าเชฟคิดไม่ผิดเลย เพราะผลงานที่เราได้ลิ้มลองไปวันนี้นั้น เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยได้จากที่ไหนมาก่อน! ส่วนใครที่อยากมาลอง แอบกระซิบว่าโทรถามวันและเวลาว่างจากทางร้านก่อนนะ เพราะ Meruto Sushi เป็นร้านที่เซเลบ และแขกวีไอพีต่างแวะเวียนกันมาไม่ขาดสาย จนบางช่วงนั้นเต็มเอี๊ยดทั้งเดือน เดี๋ยวจะหาว่า HELLO! ไม่เตือนนนน
เชฟอาร์ม – กีรติ บุตคีวงษ์ เจ้าของร้าน
INFO: เซ็ท Summer Finale ราคา 9,900++ บาท มีให้บริการที่ร้าน Meruto Sushi สาขาสาทร (อยู่ที่อาคาร Sathorn Gardens) เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 092-369-7924 และ www.merutosushi.com
ที่มาของข้อมูล : https://merutoomakase.com/